มหาสมุทรสู่ทะเล

เรื่องสั้นเรื่อง ‘มหาสมุทรสู่ทะเล‘ เป็นเรื่องสั้นในชุด ‘สิ่งมีชีวิตตกค้างในครอบครัว’

โดย ณรงค์ จันทร์สร้อย (encipher@yahoo.com), ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๕


เรือทัวร์ดำน้ำลอยลำทางทิศตะวันตกของเกาะตาชัยตอนบ่ายแก่ มหาสมุทรหลงทางมาทัวร์ดำน้ำทริปสิมิลันเหนือ เพื่อหลบหนีบางสิ่งและเพื่อค้นหาบางอย่าง ขณะนั่งฟังบรี๊ฟแผนดำน้ำ เขาตาลอยออกไปกับระลอกคลื่นสะท้อนแสงอาทิตย์ ประกายระยิบระยับกำลังร่ายมนต์สะกดจิต ใจลอยตามออกไปเกือบถึงขอบน้ำ เนิ่นนานจนเริ่มแสบตา หูปิดสนิทตั้งแต่ใจลอยไปถึงกลางทาง แดดร้อนต้นฤดูหนาวไม่ได้ร้อนน้อยไปกว่าฤดูใดในสิมิลัน ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ที่สามของวันนี้ หลังไดฟ์ลีดเดอร์บรี๊ฟเสร็จนักท่องเที่ยวเริ่มลงไปเปลี่ยนชุดดำน้ำ ก่อนทะยอยโดดลงน้ำ ลอยคอนัดแนะกับคู่บั๊ดดี้เรียบร้อย ก็ปล่อยลมจากเสื้อบีซีดีก่อนทิ้งตัวลงสู่ใต้น้ำกันไปทีละคู่

เกาะตาชัยอยู่ทางทิศเหนือของหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ตกว่าเจ็ดสิบกิโลเมตร มหาสมุทรนั่งรถทัวร์จากขนส่งสายใต้ที่กรุงเทพฯ ตอนค่ำเมื่อสองวันก่อน ถึงท่ารถทัวร์ภูเก็ตเช้ามืด เขาลากกระเป๋าใบยักษ์เพียบด้วยอุปกรณ์ดำน้ำและเสื้อผ้าไปฝากไว้ที่สำนักงานบริษัทรถทัวร์ที่นั่งมา ก่อนนั่งรถสองแถวออกไปทานติ่มซำเจ้าประจำในตัวเมือง เขาไม่ได้หิว แต่สามัญสำนึกชักจูงไปโดยไม่รอการตรองของสมองสักนิด

เช้ามืดต้นเดือนมกราคมหลังหยุดปีใหม่ บรรยากาศดูเหงาหงอย หลังความสนุกยาวนานเพิ่งเลิกรา เม็ดฝนบาง-บางโปรยปรายไม่ถึงกับเปียกแต่ชื้น เขาหันหน้าออกรับความเย็นเยียบปะทะใบหน้า หยดน้ำเกาะปลายขนตา ภาพวิวที่ผ่านมา-และผ่านไปพร่ามัว รถสองแถววิ่งเนิบช้า เลี้ยวเลาะผ่านถนนและซอกซอย เขาเห็นสี่แยกจุดสังเกต เอื้อมมือกดกริ่ง เดินลงไปจ่ายค่ารถด้านหน้า ก่อนข้ามถนนอ้อยอิ่งเข้าร้าน แว่บความคิดหนึ่งแล่นผ่าน ‘มาทำไมวะเนี่ย!’ เหม่อลอยชั่วครู่ก็พบตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีสดใส บนโต๊ะมีจานติ่มซำห้าจาน ล้วนเป็นเมนูประจำที่มาแล้วต้องสั่งทุกครั้ง ร้านติ่มซำส่วนใหญ่ในภาคใต้มีข้อดีอย่างหนึ่งต่างจากกรุงเทพฯ ตรงที่จานไหนทานไม่หมดทางร้านจะคิดเงินเฉพาะชิ้นที่ทาน เสียงภาษาถิ่นจากโต๊ะข้างๆ คุยกันดังลั่น เขาฟังรู้เรื่อง แต่เขาไม่ได้อยากรับรู้เรื่องราวด้วย

อิ่มหนำกับติ่มซำแบบมึนๆ ก็ยกถ้วยชาร้อนขึ้นซด ความร้อนซ่านลิ้นจนแสบร้อน ก่อนไหลผ่านคอสู่ท้อง ร้อนซ่านแผ่ไปทั่วตัว เหมือนดวงตาจะเริ่มสว่าง แววตาเริ่มมีประกาย เขายกกาน้ำชารินชาอีกถ้วย ยกซดรวดเดียวหมด เพื่อเรียกเอาวิญญาณกลับสู่ร่างให้เต็มตัว

ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นหลังนั่งบนรถทัวร์มาทั้งคืน ไม่ได้นั่งรถทัวร์เดินทางยาวๆ อย่างนี้มานาน เขาไม่ได้รีบนักจึงไม่เลือกเดินทางด้วยการบิน เขาอยากย้อนรำลึกช่วงวัยรุ่นที่นั่งรถทัวร์ไปเที่ยวไหนต่อไหนมากกว่า ได้แวะพักทานข้าวต้มกลางทาง ดื่มด่ำบรรยากาศคราคร่ำไปด้วยรถทัวร์และผู้คน ได้นั่งเบาะวีไอพีตัวใหญ่แสนสบายกว่าเบาะนั่งชั้นประหยัดบนเครื่องบิน ได้เหม่อมองดวงจันทร์และหมู่ดาวบนผืนฟ้ายามราตรี เคลื่อนตัวตามสลับลับหายเป็นช่วงๆ เสียงล้อบดถนนและตัวรถโยกส่ายยามเลี้ยว สัมผัสได้ถึงการเดินทางที่เคลื่อนไปข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่เขาชอบมากที่จะได้ปล่อยใจลอยไกล เหม่อคิดเพ้อฝันไปเรื่อยเปื่อย แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เหม่อถึงสิ่งชวนฝัน ตามองดวงจันทร์แต่จิตยังจดจ่ออยู่กับเหตุที่ทำให้เขาได้มีเวลามากพอเดินทางมาดำน้ำ…

กลับมาเอา(สัม)ภาระหนักอึ้งแล้วเดินไปขึ้นรถสองแถวสายมุ่งหน้าสู่หาดป่าตอง เพิ่งแปดโมงเช้าแดดร้อนก็โปรยตัวคลุมทุกพื้นที่ ช่างขัดแย้งกับเมื่อเช้ามืด แดดจ้าจนต้องหยิบแว่นกันแดดขึ้นสวม รถสองแถววิ่งๆ หยุดๆ เพื่อจอดรับส่งผู้โดยสาร ภูเก็ตวันนี้การจราจรหนาแน่นต่างจากสมัยเขายังเด็กยิ่งนัก กว่าคืบคลานมาถึงหาดป่าตองก็ปาเข้าไปเก้าโมงกว่า จริงแล้วเขาไม่ได้รีบ เพียงเผลอนำความรู้สึกรีบด่วนติดตัวมาจากกรุงเทพฯ ด้วย

ผ่านหน้าร้านเสวย ลุกขึ้นกดกริ่ง เดินลงไปจ่ายค่ารถด้านหน้า

เขาเหลือบมองร้านเสวย ยืนนิ่งนาน นึกถึงภาพร้านเมื่อสมัยก่อนโดนสึนามิถล่ม เขาเคยมานั่งทานอาหารกับแฟนที่นี่ประจำเมื่อมาลงเรือทัวร์ดำน้ำที่ภูเก็ต แดดร้อน เหงื่อเริ่มซึม ฉุดเขากลับจากห้วงอดีต เดินลากกระเป๋าเข้าซอยถัดจากร้านเสวยไปเกือบสุดซอย เข้าไปติดต่อบริษัททัวร์ดำน้ำที่ได้จองทริปสิมิลันเหนือเอาไว้ พนักงานยื่นแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมแจ้งกำหนดเวลาลงเรือคือสี่โมงเย็น เขาจ่ายค่าทริปส่วนที่เหลือจากมัดจำ รับเงินทอนเสร็จก็ขอฝากกระเป๋าเอาไว้

ผลักประตูกระจกเดินออกจากความเย็นฉ่ำสู่ไอระอุภายนอก อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เขารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ วูบวาบไปทั้งตัว ถึงปากซอยเดินข้ามไปฝั่งชายหาด เดินเหยียบทรายนุ่มเท้าเลียบเลาะไปตามทางไร้จุดหมาย อากาศร้อน ลมเย็น และกลิ่นไอทะเล นี่คือโลกอีกด้านหนึ่งของเขา คือตัวตนที่แท้จริง ส่วนโลกอีกด้านคือหน้าที่

เหงื่อซึมทั่วอกและแผ่นหลัง ทั้งบนใบหน้าและหลังคอ เขามองหาที่พักพิงชั่วคราว หันซ้ายขวาระหว่างร้านสตาร์บัคส์ฝั่งตรงข้ามกับเตียงผ้าใบริมหาด เขาอยากนอนรับลม สูดกลิ่นไอทะเล แต่ร่างกายกลับมุ่งหน้าเข้า ‘สตาร์บัคส์’  อากาศเย็นฉ่ำ โซฟาหนานุ่ม และแสงไฟดาวน์ไลท์ น่าจะทำให้เหงื่อแห้งเร็วกว่า

เขาไม่ชอบกาแฟ ท้องไส้มักปั่นป่วนโครกครากเมื่อเจอน้ำขมสีดำนี้ แต่เข้ามาสตาร์บัคส์ทั้งทีจะสั่งอย่างอื่นก็กระไร ระหว่างยืนรอคิวเขาเพ่งมองเมนูแต่ละรายการบนผนัง มากรายการ กระทั่งอ็อปชั่นก็ยังมาก ตาเริ่มลาย เขานึกไม่ออกจะเลือกอะไรดี

และเมื่อถึงคิว

“รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?”

“เออะ…คาราเมลแฟล้ปปูชิโน่…ครับ”

“แก้วกลางหรือแก้วใหญ่ดีคะ?”

“แก้วเล็กครับ”

เขาเคยอ่านนิตยสาร MBA เล่มหนึ่ง มีบทความเกี่ยวกับร้านสตาร์บัคส์ ซึ่งทำให้เขาได้รู้ว่าราคากาแฟแต่ละแก้วของสตาร์บัคส์หมดไปกับค่าการตลาดและค่า ‘มูลค่าเพิ่ม’ เท่าไร ค่าวัตถุดิบจริงๆ เท่าไร ขนาดแก้วที่ต่างกันกับราคาขายและราคาต้นทุนจริงๆ เท่าไร ราคาขายแก้วกลางกับแก้วเล็กห่างเป็นสิบบาท แต่ค่าต้นทุนกาแฟจริงๆ ไม่ถึงห้าบาท เขาไม่ได้โกรธเคืองอะไร เข้าใจดีว่านี่คือธุรกิจ ของซื้อของขาย เจ้าของเขาก็ต้องอยากได้กำไร และสิ่งที่เขามอบให้แก่ลูกค้าคือความแตกต่างจากร้านกาแฟในยุคสมัยนั้น

หลังจากรอรับกาแฟแล้วเดินมาหาโซฟานุ่มๆ นั่ง ตอนนี้ยังสายอยู่ ลูกค้าในร้านยังไม่มากนัก

เขาดูดกาแฟปั่นอึกใหญ่ด้วยความกระหาย แว่บนึกถึงร้านกาแฟดอยช้างบนชั้นสองตลาดกล้วยไม้ข้างตลาดสด อ.ต.ก.

นั่งจิบกาแฟทีละนิดเนิ่นนานไม่มีอะไรทำ เขาไม่อยากหยิบโทรศัพท์มือถือมาเล่นอินเทอร์เน็ต อยากห่างๆ จากไอทีเสียบ้าง เขาเอียนกับมันมาหลายสัปดาห์แล้ว เหลือบไปเห็นชั้นวางหนังสือ ลุกไปหยิบนิตยสารต่างประเทศมานั่งอ่านฆ่าเวลา อ่านไปเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย ตัวหนังสือเริ่มส่ายซ้าย-ขวา ซ้อนเหลื่อมขึ้น-ลง

เขาเผลอหลับ

กว่าสามสิบนาที ที่เผลอหลับไป เขากังวลว่าเมื่อสักครู่เผลอกรนด้วยหรือเปล่า หันรีหันขวาง ไม่มีใครสนใจใคร ไม่มีใครมองมาทางเขา เหลือบดูนาฬิกา ยังอีกว่าสี่ชั่วโมงจึงจะได้เวลาลงเรือ กาแฟเหลือค่อนแก้ว ใสกว่าตอนที่รับจากมือพนักงาน ตอนนี้น้ำขมสีดำเริ่มสำแดงฤทธิ์ ท้องเริ่มโครกคราก ปั่นป่วนดังทะเลในคืนพายุกระหน่ำ อาการโรคกระเพาะอาจกำเริบ กาแฟเป็นตัวกระตุ้นดีๆ นี่เอง ปวดท้องจนตัวงอ ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาเกือบหกชั่วโมงแล้วนอกจากกาแฟ

เขาเดินออกจากสตาร์บัคส์ ด้วยความขี้เกียจและความร้อนจึงเลือกเลี้ยวซ้ายไปไม่กี่ก้าว เดินเข้าร้าน ‘เซน’ ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังสาขาหาดป่าตอง เช่นเคยตั้งแต่เช้าที่ใจไม่ได้อยากเท่าไร ซาชิมิกับทะเลดูเข้ากันดี แต่ใจนึกถึงขนมจีนสูตรเด็ดที่มีอยู่ทั่วภูเก็ตมากกว่า แต่ไม่เป็นไร เขานึกในใจ ทุกอย่างสวนทางกันไปหมดมาตั้งแต่ก่อนขึ้นรถทัวร์แล้ว

หลังทานข้าวปั้นหน้าปลาดิบหลากชนิดไปหลายคำอย่างเนิบช้า ออกจากร้านเดินหาร้านขายยา ซื้อยาทานเสียหน่อยป้องกันไว้ก่อนและเผื่อปวดท้องตอนอยู่บนเรือ

อาการปวดท้องเริ่มดีขึ้น เหลืออีกแค่สองชั่วโมงกว่า เขาจึงเดินข้ามถนนไปนอนรับลมอย่างที่ใจอยาก นอนบนเสื่อให้หมอนวดนวดน้ำมัน รู้สึกสบายแม้ค่าบริการไม่ถูกนัก แต่ก็ดีกว่านอนบนเตียงผ้าใบเฉยๆ โดยไม่ยอมสั่งอะไรทาน เขาปล่อยให้หมอนวดกระทำกับร่างกายของเขาตามอำเภอใจ ความสบายกายสบายใจจึงไม่อยากขัดขืน เมื่อหมดเวลาก็ซื้อบริการต่อ ต่อเวลาไปเรื่อยๆ จนได้เวลาบ่ายสามครึ่ง จึงเดินกลับที่บริษัททัวร์ ลากกระเป๋าออกมาปากซอยเรียกรถสองแถวไปลงท่าเรือ ส่งกระเป๋าให้เด็กเรือยกลงเรือ ไต๋เดินมาทักทายลูกทัวร์ พร้อมแจ้งว่าจะออกเรือตอนหกโมงเย็น เขาสะอึกเล็กน้อย ว่าแล้วเชียวทำไมพนักงานที่ร้านบอกให้ลงเรือเร็วผิดปกติ จนได้คำตอบจากไต๋ว่าทริปนี้มีคนไทยหลายคน เลยต้องเผื่อเวลาหน่อย

เขาขอไต๋ลงเรือเข้าไปเปิดแอร์นอนในห้องก่อนได้หรือไม่ ไต๋แสดงท่าทางลังเลเพราะกลัวเปลืองไฟ เขาจึงอ้างเรื่องปวดท้องจนไต๋ยอม

ห้องนอนสองเตียงซ้อนกันขนาดเล็กแคบ มีพื้นที่ว่างพอให้วางกระเป๋าได้เล็กน้อย เขามาก่อนจึงขอเลือกนอนเตียงล่าง และลุ้นในใจว่านับจากนี้ไปอีกสามคืนลูกทัวร์คนใดจะมานอนเตียงบน

ห้าโมงครึ่งได้ยินเสียงกุกกักในห้อง มหาสมุทรสะดุ้งตื่น งัวเงียระคนตกใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองเตียงบน มันขยับไปมา คงเป็นลูกทัวร์และในฐานะเพื่อนร่วมห้อง เขาเหลือบเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตวางอยู่ที่พื้นติดกับกระเป๋าใบแฟบของเขา เขาเอาอุปกรณ์ดำน้ำทั้งหมดออกไปวางไว้บริเวณที่วางอุปกรณ์ของเรือเรียบร้อยแล้ว…

กึก.. กึก.. กึ้ง….

เขาเห็นขาคนกำลังไต่บันไดลงจากเตียงบน เพื่อนร่วมห้องกำลังลงมาในท่าหันหน้าเข้าหาบันได หล่อนหยุดยืนมองหน้าเขา ซึ่งเขาไม่มั่นใจว่าตั้งใจหรือเพราะท่าลงบันไดบังคับ เขายังสะลึมสะลือ หล่อนยิ้มให้ พร้อมทักทายด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงแปล่งๆ เขาพยายามควบคุมตัวเอง ทักตอบตามมารยาท ในใจเต้นตูมตาม ประกายบนแววตาเผลอฉายออกมาอย่างเผลอตัว

เธอผมยาวสลวยเป็นลอนถึงบ่า ผิวสีแทนนั้นน่าจะเกิดจากการกรำแดด จมูกโด่ง ตาโตเป็นประกาย ริมฝีปากบนเรียวบางริมฝีปากล่างเอิบอิ่ม ใบหน้าโค้งเรียว หุ่นเพรียวบาง… เขาเผลอสแกนหล่อนเสียละเอียดยิบ ก่อนสติจะกลับมาเมื่อเธอเริ่มแนะนำตัว

เธอชื่อ ‘เรโกะ’ เป็นชาวญี่ปุ่น เป็นช่างถ่ายภาพใต้น้ำ เดินทางมาพักผ่อนประจำปีและเพื่อเก็บภาพใต้ทะเลอันดามันของไทย เผื่อโชคดีได้ภาพสวยๆ เอากลับไปขายได้

เขาเล่ารายละเอียดของหมู่เกาะสิมิลันให้เธอฟังคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ และเขาก็นึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรด้วยดี

แกร๊งๆๆ… แกร๊งๆๆ… เสียงเคาะระฆังเสียงดังกังวาลไปทั้งลำเรือ ตามด้วยเสียงเด็กเรือเรียกลูกทัวร์ไปที่ท้ายเรือ เพื่อฟังไต๋แนะนำเรือและการเดินทาง

ไต๋แนะนำชื่อเรือ ประวัติเรือ ชื่อไต๋ เด็กเรือสามคน แม่ครัวหนึ่งคน และไดฟ์ลีดเดอร์มือฉมังชำนาญพื้นที่เป็นอย่างดีสองคน ไต๋ยิงมุขตลกสอดแทรกตลอด จนครื้นเครงกันไปทั่ว อธิบายด้วยภาษาไทยสำเนียงใต้ สลับภาษาอังกฤษสำเนียงไทย เพราะทริปนี้มีลูกทัวร์ทั้งหมดสิบแปดคน เป็นชาวต่างชาติสิบคนและชาวไทยแปดคน ทั้งหมดนี้มีมหาสมุทรกับเรโกะเท่านั้นที่มาเที่ยวคนเดียวลำพัง… คนหนึ่งตั้งใจมาคนเดียว คนหนึ่งหลงทางมา

คืนแรกบนเรือเขานอนไม่หลับ เรือไม่ได้จอดนิ่ง คืนนี้คลื่นลมแรง เรือต้องวิ่งฟันคลื่นแล่นอ้อมสู่หมู่เกาะสิมิลัน ห้องของเขาอยู่ด้านหน้าใกล้หัวเรือที่สุด หัวเรือโยกขึ้นก่อนทิ้งน้ำหนักฟันคลื่นกระแทกครืน ห้องของเขาจึงโคลงเคลงที่สุด เสียงคลื่นลมแรง ทำเอาเขานอนกระสับกระส่ายตลอดคืน เขาผ่านบรรยากาศแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนหนักหนากว่านี้จนเรือเกือบล่มก็เคยเจอมาแล้ว คืนนี้ในความจริงก็ไม่ได้น่ากลัวสักเท่าไหร่เลย…

เขานอนนึกถึงว่าตนเองไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ? ไม่ได้ดำน้ำและล่องเรือเดินทางไกลหลายสิบกิโลเมตรอย่างนี้มาน่าจะเกือบสี่ปี เวลาของเขาในช่วงผ่านมาหมดสิ้นไปกับหน้าที่หนักอึ้งที่เขาแบกมาตลอดหลายปี

เขาไม่ได้บอกความจริงเรื่องการห่างหายจากโลกใต้น้ำไปนานกับใคร แม้แต่ไต๋ ไดฟ์ลีดเดอร์ และเพื่อนร่วมห้อง โดยเฉพาะสองคนแรก เพราะกลัวจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงดำน้ำในบางจุดสำคัญที่น้ำลึกและเชี่ยว โชคดีที่เป็นทัวร์ของคนไทย จึงไม่เข้มงวดกับนักท่องเที่ยวนัก

แกร๊งๆๆ… แกร๊งๆๆ… เสียงระฆังดังลั่นกังวาล จนสะเทือนจี๊ดเข้าไปถึงโสตประสาท มหาสมุทรสะดุ้งพรวด เช่นเดียวกับเรโกะ ทั้งสองงัวเงียเดินออกจากห้องพร้อมกัน ไปนั่งยองล้างหน้าแปรงฟันที่ท้ายเรือ เด็กเรือบอกลูกทัวร์ที่ท้ายเรือว่าตอนนี้เรือมาจอดหลบลมอยู่ที่เกาะห้า หนึ่งในหมู่เกาะสิมิลัน เดี๋ยวจะแล่นไปด้านทิศตะวันออกของเกาะดำในจุดแรกที่มีชื่อว่า ‘สวนปลาไหล’ ที่บริเวณพื้นทรายมีปลาไหลชนิด ‘การ์เด้น อีล’ จำนวนมากฝังตัวอยู่ในทรายชูแต่คอยาวๆ สลอนเต็มไปหมด และยังมีปะการังอ่อนหลากสี กับกัลปังหาต้นใหญ่ๆ และฝูงปลาเล็กๆ สีสันแสบตาอยู่เป็นจำนวนมาก

เจ็ดโมงครึ่งที่ดาดฟ้าเรือ ลูกเรือและลูกทัวร์ทุกคนขึ้นมานั่งฟังบรี๊ฟของไดฟ์ลีดเดอร์ถึงการลงดำน้ำไดฟ์แรกของทริป ลูกทัวร์ทั้งสิบหกคนต่างจับคู่บั๊ดดี้กันเรียบร้อย มหาสมุทรกับเรโกะจึงต้องเป็นคู่บั๊ดดี้กันเองโดยปริยาย หลังจากจับคู่ดำน้ำกันเรียบร้อย ไดฟ์ลีดเดอร์ให้แต่ละคู่ทะยอยลงไปเปลี่ยนชุดและจัดเตรียมอุปกรณ์

แสงแรกของวันส่องแยงตาเขาขณะยืนอยู่ท้ายเรือ เมื่อคืนเขาเผลอคิดถึงเรื่องคำสั่งสายฟ้าฟาดเมื่อสามสัปดาห์ก่อน ผลตอบแทนจากความทุ่มเทอันแสนหนักเพื่อหน้าที่… ‘หน้าที่’ ที่ตอนนี้เขาเริ่มสงสัยว่าแท้แล้วมันคืออะไร? เขาหลงใหลมัน หรือว่าเพียงหลงมัน?

ไดฟ์ลีดเดอร์ให้สัญญาณกลุ่มที่หนึ่งลงน้ำ ลูกทัวร์ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกห้าคู่ กลุ่มที่สองสี่คู่ แต่ละกลุ่มมีไดฟ์ลีดเดอร์นำกลุ่มละหนึ่งคน มหาสมุทรและเรโกะอยู่กลุ่มแรก

ขณะยังคงยืนเหม่อและอาการง่วงเข้าเกาะกุมเล็กน้อย เรโกะสะกิดเขาให้โดด

มือซ้ายรวบอุปกรณ์ มือขวากดหน้ากากและเรกูเตอร์ที่คาบอยู่ ทั้งคู่กระโดดลงน้ำ โผล่ขึ้นมาให้สัญญาณว่าเรียบร้อยดี

เขารู้สึกโล่งอกที่โดดลงน้ำด้วยดี

เขามองไปที่มือเรโกะที่ว่างเปล่าอย่างสงสัย หล่อนคงรู้ตัวจึงบอกเขาว่านี่เป็นไดฟ์แรก ขอดำน้ำแบบสบายตัวก่อน ยังไม่อยากถ่ายภาพ ลูกทัวร์กลุ่มแรกลอยคอนัดแนะกับคู่บั๊ดดี้เรียบร้อย ก็ปล่อยลมจากเสื้อบีซีดีก่อนทิ้งตัวลงสู่ใต้น้ำกันไปทีละคู่

หลังจากไต่ระดับความลึกลงมาไม่มากก็ถึงบริเวณพื้นทราย ปลาไหลสวนนับร้อยตัวชูคอสลอน นักดำน้ำหลายคู่ตื่นตาตื่นใจ บางคนนำกล้องถ่ายภาพใต้น้ำลงมาด้วยก็ถ่ายภาพกันใหญ่ สำหรับมหาสมุทร เขาเคยมาสัมผัสภาพเบื้องหน้านี้มานับสิบครั้ง แม้แต่สีสันสวยสดของปะการังอ่อน ปลาทะเลสีบาดตานับร้อยนับพันก็ไม่อาจกระตุ้นให้แววตาระริกได้ เพียงได้ลงมาปล่อยตัวลอยในห้วงน้ำ สัมผัสมุมมองสามร้อยหกสิบองศา เป็นอิสระจากพันธนาการทั้งปวง โลกสีครามอันกว้างใหญ่ไพศาล อยู่บนโลกใบเดียวกันเฉกเช่นผืนดิน แต่กลับแปลกแยกแตกต่างกันลิบ แดนสวรรค์ที่ไม่ต้องรอให้ตายก่อนแล้วค่อยลุ้นว่าจะได้ลอยขึ้นไปเหนือฟ้าหรือไม่

หลังขึ้นเรือลูกทัวร์ทุกคนแช่มชื่น ประทับใจสุดขีดตั้งแต่ไดฟ์แรก เมื่อเก็บอุปกรณ์และเปลี่ยนชุดกันเสร็จ ต่างกระจายกันไปนั่งพักผ่อนตามส่วนต่างๆ ของเรือเท่าที่จะมีที่พอให้นั่งเล่นได้ บางส่วนก็เข้าห้องนอนเอาแรง ก่อนจะลงดำในไดฟ์ต่อไปตามที่ไดฟ์ลีดเดอร์แจ้งว่าคือหินปูซาหรือหินหัวกะโหลก

เรโกะหยิบกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ, เฮ้าซิ่งสำหรับใส่ครอบกล้องเพื่อกันน้ำ และแฟลชใต้น้ำอีกสองตัว เอาออกมานั่งทำความสะอาด เธอบอกเขาว่าไดฟ์ต่อไปจะแบกมันลงไปด้วย เขานั่งมองเธอแล้วเผลอยิ้มน้อยๆ ก่อนที่ความเพลียค่อยๆ โถมร่างให้เอนแผ่อยู่บนม้านั่งยาวบนดาดฟ้าเรือ

แกร๊งๆๆ… แกร๊งๆๆ… นี่มันเสียงนรกหรือเสียงสวรรค์กันแน่ เขารู้สึกว่าจะต้องได้ยินเสียงระฆังบ้านี่อีกกี่ครั้งกันนะ

สิบเอ็ดโมงครึ่งหลังฟังบรี๊ฟ เปลี่ยนชุดและจัดอุปกรณ์เรียบร้อย กลุ่มที่หนึ่งได้สัญญาณให้โดดลงน้ำกันไปทีละคู่ ก่อนทะยอยทิ้งตัวสู่ใต้น้ำ

ความลึกของจุดดำน้ำนี้ไดฟ์ลีดเดอร์ให้ดำอยู่ที่ระดับสิบห้าถึงสามสิบเมตร ที่นี่มีหินก้อนใหญ่ขนาดเท่าห้องนอนจำนวนมาก เล็กกว่าบ้างใหญ่กว่าบ้างไม่มาก ซ้อนทับระเกะระกะเต็มไปหมด เป็นจุดดำน้ำที่สนุกสนานสำหรับลูกทัวร์มาก มีช่องให้มุดเล่นเต็มไปหมด

เขากำลังลอยตัวเหนือพื้นทรายเพลินๆ เรโกะพุ่งพรวดแล้วบรรจงขยับไปปากซอกหินข้างหน้า เธอนอนอยู่บนพื้นทราย ถ่ายภาพปลาโกบี้ลูกดอกไฟตัวยาวกว่านิ้วชี้เล็กน้อยสองตัว แล้วขยับไปทางขวามุดซอกหินไปอีกด้านหนึ่งถ่ายภาพฝูงปลาปากหวานสีสวยสด ลายขวางสีเหลือง ขาว ดำสลับกัน ฝูงนี้ตัวยาวเท่าหน้าแข้งทีเดียว นานๆ จะได้เห็นตัวใหญ่ขนาดนี้ จากนั้นเธอก็มุดซอกหินไปโผล่อีกด้านก่อนไปหยุดคว้างกลางน้ำ

ริ้วน้ำสีฟ้าตัดกับสีน้ำทะเลที่เข้มกว่า ยาวคดเคี้ยวเป็นเส้น ราวอุโมงค์ขนาดเท่าสองคนบิดโค้ง เธอกำลังหยุดมอง ก่อนตีขาเข้าไปอยู่ภายในริ้วน้ำนั้น เธอค่อยๆ เคลื่อนไปตามกระแสของมัน ภายในริ้วสีฟ้าอ่อนมีลักษณะเป็นวุ้นๆ มันหอบพาเธอไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวของมัน เพียงปล่อยตัวตามมันไปโดยปราศจากการตีขาตามใดๆ เธอสนุกอยู่กับมันสักพักแล้วตีขาว่ายออกมา จริงแล้วเขาก็ชอบเทอร์โมไคลน์เหมือนกัน แต่พอนึกถึงความเย็นเยือกของมันแล้วเขาขอลอยตัวดูเธอเล่นสนุกดีกว่า

ขึ้นเรือมาแต่ละคนตื่นเต้นกับเทอร์โมไคลน์กันใหญ่ จนลืมความสนุกที่เพิ่งได้มุดซอกหินเล่นกันมา

เรโกะบอกว่าเธอเจอไม่บ่อยนักแม้ดำน้ำทั้งเที่ยวทั้งทำงานมาหลายปีแล้วก็ตาม เจอทีไรก็ชอบที่จะเข้าไปลอยตัวอยู่ภายใน ปล่อยตัวไหลไปตามกระแสน้ำเย็น ภายในเย็นเจี๊ยบ เหมือนว่ายในน้ำแข็ง เธอหยิบกล้องเปิดรูปที่เพิ่งถ่ายให้ดูผ่านจอด้านหลัง เขาชมฝีมือเธอไม่แพ้ เดวิด ดูบิเลต์ ช่างถ่ายภาพใต้น้ำระดับโลกเลย เธออมยิ้มจนแก้มแดง ก่อนเดินเอากล้องไปเก็บ

มหาสมุทรนั่งอยู่ท้ายเรือ เหม่อมองท้องทะเลและพรายฟองจากกำลังขับของเครื่องยนต์ ที่กำลังเดินหน้าพาเรือมุ่งสู่เกาะตาชัย เขาใช้ชีวิตอยู่บนโลกเหนือน้ำมาหลายปี ลอยเคว้งอยู่บนตึกสูง หลงรักในอาชีพ ที่แปลงความรู้จากการศึกษามาใช้หาเงิน เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนในประเทศที่เชี่ยวชาญในอาชีพนี้ที่สุด

ระหว่างกำลังเพลินกับวิวเบื้องหน้าท้ายเรือ ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ ตัดสลับไปมากระตุ้นต่อมน้ำตาจนรื้น แปลบไปที่ใจเล็กน้อย สัมผัสถึงแรงเต้นของหัวใจที่สั่นเครือ ก่อนจะจมดิ่งลึกไปกว่านี้เรโกะเข้ามาช่วยกระชากเขาออกมาจากห้วงทุกข์ได้ทัน

เธอลงมาตามให้ขึ้นไปทานข้าวกลางวัน

เธอสังเกตใบหน้าเขา เขาจึงแสร้งว่าแสบตาจากควันเครื่องยนต์

เรือทัวร์ดำน้ำลอยลำทางทิศตะวันตกของเกาะตาชัยตอนบ่ายแก่ มหาสมุทรหลงทางมาทัวร์ดำน้ำทริปสิมิลันเหนือ เพื่อหลบหนีบางสิ่งและเพื่อค้นหาบางอย่าง…

ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ที่สามของวันนี้ หลังไดฟ์ลีดเดอร์บรี๊ฟเสร็จนักท่องเที่ยวเริ่มลงไปเปลี่ยนชุดดำน้ำ ก่อนทะยอยโดดลงน้ำ ลอยคอนัดแนะกับคู่บั๊ดดี้เรียบร้อย ก็ปล่อยลมจากเสื้อบีซีดีก่อนทิ้งตัวลงสู่ใต้น้ำกันไปทีละคู่

มหาสมุทรดำดิ่งสู่ห้วงน้ำกว้าง

บ่ายแก่ แดดจัด วันหนึ่งของต้นเดือนมกราคมหลังปีใหม่

เสียงหายใจเข้าดังฟืด หลังหายใจออก พรายฟองอากาศค่อย-ค่อยลอยขึ้นเบื้องบน

เขาลอยตัวขนานกับผิวโลก หมุนตัวเบา-เบา กางแขนออก

หงายหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์เลือนรางผ่านห้วงน้ำสีคราม

แสงทอส่องทะลุเป็นลำ ก่อนถูกดูดซับจางหายไปในความมืดของห้วงลึก

คนนับล้านกำลังใช้ชีวิตอยู่ในอีกโลกหนึ่ง-โลกเหนือน้ำ

เขารู้สึกเพลีย หลายปีมานี้แทบไม่ได้ออกกำลังกาย เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ ดำน้ำมาสองไดฟ์แล้ว เขาพยายามควบคุมลมหายใจให้ดี ไม่ให้ความเหนื่อยทำให้หายใจถี่ ซึ่งจะทำให้อากาศในถังหมดเร็ว เขาไม่อยากให้คู่บั๊ดดี้ต้องพลอยตามขึ้นสู่ผิวน้ำเร็วเกินควร

เรโกะกำลังไล่ถ่ายภาพกระเบนราหู

เขาฉีกตัวดำดิ่งลงไปที่พื้นทราย ยิ่งลึก-ยิ่งใช้อากาศเปลือง เขามองหาฉลามเสือดาวที่คุ้นเคย ฉลามเสือดาวที่ชอบหมอบหลับอยู่บริเวณนี้

ความเพลียเข้าถาโถม

และแล้วก็ยึดครองเขาได้สำเร็จ

ความอ่อนเพลียทำให้เกิดการสะสมไนโตรเจนในร่างกายมากผิดปกติ เป็นอาการ ‘ไนโตรเจน นาร์โคซิส’ จนทำให้เขาหมดสติฉับพลัน…

น้ำพัดร่างเขาไปติดในซอกหินคล้ายโพรงถ้ำเล็กๆ ฟองอากาศลอยขึ้นไปติดตามผนังหิน อากาศในถังเหลือให้พอหายใจได้ไม่ถึงยี่สิบนาที

ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ระบบไอทีของธนาคารที่เขาทำงานอยู่ล่มเป็นครั้งที่ห้าในรอบปี และเป็นครั้งที่สามติดๆ กันในระยะไม่ถึงเดือน ระบบไอทีส่วนบริการหลักหรือ ‘Core Banking System’ ที่เกี่ยวข้องกับบริการฝาก ถอน โอน บัตรเครดิต ฯ ทั้งหมดหยุดชะงัก มหาสมุทรคือหนึ่งในฝ่ายทดสอบระบบไอที เขาเป็น Test Architect หรือสถาปนิกผู้ควบคุมงานทดสอบระบบ เป็นหัวหน้าทีมผู้รับผิดชอบการทดสอบคุณภาพระบบไอทีทั้งหมดของธนาคาร และเขาคือหนึ่งในแพะทั้งหมดสี่ตัวที่ถูกไล่ออกในกลางเดือนธันวาคม เป็นเวลาที่กำลังใกล้สู่ช่วงแห่งความสุขที่สุดประจำปีของคนทั่วโลก

เขาและแพะอีกสามตัวรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ที่จำต้องเซ็นต์ลงนาม รับเงินก้อนโตที่ไม่มีใครอยากได้ แล้วเดินออกจากองค์กรอันเป็นที่รัก สู่โลกที่เคว้งคว้างโดดเดี่ยว

ทีมทดสอบระบบของเขาคือทีมที่ถือได้ว่าดีและเชี่ยวชาญที่สุดในประเทศ แต่ละคนมีความรู้และประสบการณ์เชี่ยวกราก และเขาคือตัวตั้งตัวตีในการผลักดันให้องค์กรหันมาให้ความสำคัญกับการทดสอบระบบให้มากยิ่งขึ้น และหันมาเอาใจใส่และทุ่มงบประมาณเพื่อการพัฒนาบุคลากรด้านนี้ให้มากขึ้น

สาเหตุที่ระบบล่มติดกันหลายครั้ง หลายคนในฝ่ายไอทีของธนาคารต่างทราบดี ไม่ใช่เพราะความผิดพลาดหรือสะเพร่าจากการทดสอบ แต่เกิดจากการว่าจ้างบริษัทไอทีภายนอกที่ไม่เชี่ยวชาญมาพัฒนาและติดตั้งระบบ การทุจริตของผู้บริหารบางรายที่แอบจับมือช่วยเหลือบริษัทไอทีเหล่านั้นให้ชนะประมูลรับงานสำเร็จ และให้สามารถผ่านการส่งมอบงานได้ฉลุย ทั้งที่ระบบมีข้อบกพร่องหลายจุด

นอกจากนี้ยังเป็นที่โจษจันว่าผู้บริหารบางรายแอบถือหุ้นในบริษัทไอทีเหล่านั้นอยู่ด้วย ค่าไลเซนส์ซอฟต์แวร์และค่าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่สูงเกินจริงไปมหาศาล บางระบบในโครงการใช้งบประมาณสูงหลายร้อยล้านบาท บางโครงการสูงถึงหลายพันล้านบาท งบฯ เหล่านั้นถูกแบ่งเค้กและซอยย่อยออกไปหลายส่วน การว่าจ้างก็ถูกสับงานออกไปหลายช่วง แม้ภายหลังผู้บริหารเหล่านั้นจะหาทางออกด้วยการสร้างภาพว่าจ้างบริษัทต่างชาติจากอินเดียและอเมริกาเข้ามาช่วยแก้ปัญหา แต่คนต่างชาติก็ไม่มีวันเข้าใจวัฒนธรรมการทำงานแบบไทยๆ ความรู้ความสามารถที่พกติดตัวข้ามน้ำข้ามทะเลมามากก็ใช้ได้ไม่เต็มที่ และอย่างเคย เมื่อผู้บริหารเลือกว่าจ้างบริษัทต่างชาติที่ตนแอบมีส่วนได้เสีย แต่ด้วยการวิ่งเต้นล็อบบี้สุดฤทธิ์ของผู้บริหาร หัวเรี่ยวหัวแรงของหน่วยงานทดสอบระบบทั้งสี่คนจึงถูกเรียกตัวเข้าพบ

ทั้งสี่ถูกขอร้องให้ออกจากงาน…

เพราะด้วยภาระหน้าที่ที่อยู่ปลายน้ำสุดของกระบวนการ ที่ต้องทำหน้าที่ทดสอบฟังก์ชั่นการทำงานและคุณภาพของระบบเป็นอย่างดี แต่กลับปล่อยให้ระบบที่มีข้อบกพร่องหลุดรอดออกไป ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาล

ผู้บริหารพยายามใช้เหตุผลโน้มน้าว ประหนึ่งขอร้องอ้อนวอน

ทั้งสี่ปรึกษากัน ลูกทีมและในฐานะเพื่อนทั้งสามคนใจอ่อน และพึงใจกับเงินก้อนโตที่จะได้รับอย่างเป็นทางการ และอีกก้อนใหญ่ที่จะได้ในทางลับ ทุกคนจึงได้ข้อสรุป จบสิ้นตอนนี้ยังดีกว่าถูกบีบให้ออกภายหลัง ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะถูกกระทำเยี่ยงนั้น เงินจำนวนมากแม้ไม่ได้อยากได้ด้วยเหตุผลนี้ แต่ก็ยังดีกว่าจากไปตัวเปล่า และด้วยความสามารถและชื่อเสียงในวงการของพวกเขา น่าจะหาคนอ้าแขนต้อนรับไม่ยาก

สามวันต่อมา ข่าวประกาศไปทั่วองค์กร ว่าทั้งสี่คนยอมรับผิดชอบต่อความผิดพลาด อันเกิดจากความบกพร่องในการทดสอบระบบ จึงแสดงเจตนารมณ์ขอออกจากงาน

หลายคนในฝ่ายไอทีถึงกับน้ำตาซึม บางคนที่คุ้นเคยกับสี่คนนั้นดีถึงกับร้องไห้โฮ หน่วยงานทดสอบระบบถือเป็นหน่วยงานลูกเมียน้อยมาแต่ไหนแต่ไร เป็นหน่วยงานที่อยู่ปลายน้ำของกระบวนการ อะไรๆ ก็มากองและกล่าวโทษหน่วยงานนี้ และพวกเขาจะส่งมันไปให้ใครต่อก็ไม่ได้ จนกระทั่งมหาสมุทรลุกขึ้นมาผลักดัน จนหน่วยงานนี้ได้รับการสนับสนุนจนกลายเป็นหน่วยงานที่เชิดหน้าชูตาของฝ่ายไอที แต่พวกเขากลับต้องมาพบจุดจบแบบนี้ นี่หรือผลตอบแทนจากองค์กรที่พวกเขารัก

มหาสมุทรจมตัวเองอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจ คิดถึงงานอันเป็นที่รักและผลงานที่สร้างไว้ ซึมเศร้า เครียด เคียด แค้น ชิงชัง ทำไมถึงต้องไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องยอมจำนนเช่นนั้นด้วย อิสรภาพ เสรี ประชาธิปไตย ความเท่าเทียม มันคืออะไรกัน! เขาสมควรถูกกระทำเช่นนั้นหรือ! ผลงานที่สร้างไว้ทำไมพวกเขาถึงมืดบอดกันไปหมด! หรือผลงานของเขามันไม่สนองต่อผลประโยชน์ของพวกเขากัน! ความคิดสับสนพุ่งเสียบเข้ามาในสมอง แทงทะลุถึงจิตใจจนเจ็บแปลบ…

เขาเก็บตัวอยู่ในห้องที่คอนโดฯ หลายวัน คิดถึงเพื่อนๆ ที่ยังโชคดีที่มีแฟน บางคนแต่งงานมีครอบครัวแสนอบอุ่นอ้าแขนโอบกอดปลอบประโลม ขณะมวลน้ำหยดลงจากดวงตา เขามองเห็นกระเป๋าใส่อุปกรณ์ดำน้ำนอนสงบนิ่งฝุ่นจับอยู่ใต้โต๊ะทำงานมานาน พลันภาพอดีตก็ผุดขึ้นรวดเร็ว

ท้องทะเล โลกใต้น้ำ ฝูงปลา ความอิสระเสรี ฟองอากาศ กระทั่งภาพเขากับปู่…

ภาพของปู่ลอยชัดขึ้นมา ปู่เลี้ยงเขามาตั้งแต่จำความได้ พ่อแม่และย่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่เขายังเล็กมาก จากนั้นปู่ก็เป็นผู้เลี้ยงดูเขาจนโต

ปู่เล่าว่า ก่อนเขาเกิด ปู่เคยเป็นพ่อบ้านของบริษัทขนาดเท่ายักษ์อาศัยในตลาดทุนแห่งหนึ่ง มีลูกบ้านหลายร้อยคน ทำงานหนักยิ่งกว่าชาวนา ต้องตื่นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น วันๆ ต้องนั่งหัวโต๊ะใหญ่ในห้องสี่เหลี่ยมแสนเมื่อย ฟังคนอื่นพูดโม้ โกหก ถกเถียงทะเลาะกันต่อหน้า นานๆ จะได้เจอคนดีนิสัยดีพูดจาดีๆ บ้าง ทั้งยังต้องนั่งเซ็นต์เอกสารกองโตเท่าภูเขาแทบทุกวัน กลับบ้านก็หลังละครหลังข่าวจบ เสาร์อาทิตย์ยังต้องไปตีกอล์ฟ เดินไล่ตีลูกกลมๆ เล็กๆ สีขาวกลางแดดเปรี้ยง ตีไปไกลก็ต้องเดินตามไปตีมันต่อ จนเหงื่อไหลไคลย้อย เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ยังต้องมาเหนื่อยในวันหยุดอีก ปู่ชอบตีปิงปองกับดำน้ำมากกว่า เหนื่อยแต่เร้าใจ หนึ่งสัปดาห์ของปู่มีแต่กิจกรรมซ้ำๆ ซากๆ ปู่ยังต้องทนปฏิบัติต่อไปเพราะคือหน้าที่ ลูกบ้านจำนวนมากต้องพึ่งปู่

จนกระทั่งอุบัติเหตุครั้งสำคัญในชีวิตที่เกิดขึ้นกับคนรักถึงสามคนเดินทางมาถึง เพียงชีวิตเดียวที่เหลือรอดจากอุบัติเหตุครั้งนั้นคือเขา…

ปู่ขอบคุณสวรรค์ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้พรากทุกชีวิตที่รักจากปู่ไป

จากอุบัติเหตุครั้งนั้นปู่ไม่เป็นอันทำงาน เพราะห่วงหลาน และยังอยู่ในภาวะโศกเศร้า ไม่นานปู่ก็ถูกบีบให้ต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างนำความรู้ความสามารถกอบกู้สถานการณ์ช่วยเหลือลูกบ้านและนักลงทุนนายจ้างของพ่อบ้านอีกที  กับอีกทางเลือกที่ไม่เคยอยู่ในความคิดปู่มาก่อน

ในที่สุดปู่ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สอง ปู่ลาออกจากตำแหน่งพ่อบ้าน ขอเกษียณก่อนวัย และปู่เพิ่งรู้ว่าแท้แล้วลูกบ้านและนายจ้างต้องพึ่งปู่เพราะอะไร ปู่มอบหมายหน้าที่ให้พ่อบ้านคนใหม่เสร็จสรรพ จึงตัดสินใจเก็บข้าวของพาเขาย้ายจากบ้านหลังเท่าคฤหาสน์ใจกลางกรุงเทพฯ มาปลูกบ้านน้อยบนเนื้อที่กว้างขวางในจังหวัดภูเก็ต

ปู่ปลูกต้นไม้เต็มพื้นที่ ทุกจุดเท่าที่ปู่พอจะหาที่ว่างได้ ปู่บอกว่าเก็บกดมานาน

ภาพสมัยเรียนประถมเด่นชัดขึ้นมา เขาได้เป็นหัวหน้ากลุ่มเพื่อนๆ ทั้งเป็นหัวหน้าห้อง นำร้องเพลงชาติและสวดมนต์ และยังเป็นหัวหน้ากลุ่มหัวโจกในคราเดียวกัน เป็นเด็กกรุงที่มาเติบโตในภาคใต้แต่แหลงใต้ไม่ชัดสักที แต่เพื่อนๆ ก็ไม่กล้าล้อเขานัก

ภาพสมัยเพิ่งเรียนจบตัดฉับเข้ามาแทน เขาจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ทำงานอยู่สองปีแล้วเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารไอที และเอ็มบีเอ ระหว่างจบปริญญาโทเขาสนใจงานทดสอบระบบขั้นสูง จึงเริ่มทำวิจัยส่วนตัว เพื่อนๆ ของเขาจึงแนะว่าให้ทำวิจัยเพื่อต่อปริญญาเอกไปเลย ไหนๆ ก็ตั้งใจจะทำวิจัยอยู่แล้ว จะได้ได้ปริญญาติดตัวด้วย เผื่อเอาไปใช้ประโยชน์อะไรอย่างอื่นได้เยอะในสังคมที่พึ่งพาเปลือกแบบในบ้านเรา เขาไม่ได้อยากเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อใหม่ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อสังคมนี้ผู้คนศรัทธาในเสื้อผ้ามากกว่าร่างกาย เพียงอายุยี่สิบแปดคำนำหน้าชื่อเขาก็เปลี่ยนไป ทำวิจัยเสร็จและเรียนจบปริญญาเอกอย่างรวดเร็ว อาจเพราะเขาทำมันเพราะเขาอยากทำ สิ่งอื่นเป็นเพียงของแถม

จบมาไม่นานก็ได้เข้าทำงานกับธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศ ผลงานวิจัยและความสามารถของเขาเป็นประโยชน์ต่อองค์กรอย่างมาก ความเป็นหัวโจกของเขาผลักดันให้หน่วยงานเล็กๆ กลายเป็นหน่วยงานระดับแถวหน้าของฝ่ายไอทีต่อมา ไม่นานเขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมทดสอบระบบ เขาไม่ได้อยากได้ตำแหน่ง เขาทำแค่เพราะเขาชอบ ตำแหน่งเป็นเพียงหัวโขน

“การเป็นหัวหน้าต้องมีความรับผิดชอบที่สุด จะต้องการหรือไม่ต้องการก็ต้องรับ…ผิดชอบ” ประโยคของปู่ที่เล่าเรื่องตอนเป็นพ่อบ้านสมัยเด็กเขายังจำได้

ภาพห้วงน้ำกว้างไกล น้ำใสแจ๋ว ปะการังอ่อนสีสวยสดเกาะเต็มโขดหินใต้น้ำ ฝูงปลาสีแสบตานับร้อยนับพัน ลอยชัดเข้ามาแทน ภาพปู่และเขาในวัยเด็กดำน้ำอยู่ภายในโลกสีคราม…

หยดน้ำพรั่งพรูจากดวงตาทั้งสองไหลอาบแก้ม เขามัวแต่คร่ำครวญบ้าบอถึงอะไรกันอยู่ตลอดสามสัปดาห์มานี้ วันขึ้นปีใหม่โทรศัพท์มือถือของเขาแจ้งมิสด์คอลล์จากปู่ จากนั้นเขาได้รับข้อความส่งความสุขจากปู่ทางเอสเอ็มเอส เขาอ่านไม่จบประโยคด้วยซ้ำ

“ไอ้ระบบพวกนั้นมันก็ไม่ใช่ของกู ธนาคารก็ไม่ใช่ของกู หุ้นบริษัทกูก็ไม่มีสักตัว…”

พลันเขานึกถึงเพื่อนทั้งสาม ที่ตอนนี้คงเที่ยวสนุกอยู่ต่างประเทศ หลังแบ่งเงินส่วนหนึ่งพาแฟนและครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศอย่างที่ใจอยากมานาน ตลอดเวลาหลายปีที่ทำงานพวกเขาไม่มีโอกาสได้หยุดติดกันเกินสองวันเลย ออกจากบ้านแต่เช้า กลับบ้านดึกดื่น มีภาระรับผิดชอบสูงส่ง ระบบไอทีทั้งหมดมูลค่ารวมกันน่าจะหลายหมื่นล้านบาท ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีทั้งผู้บริหาร พนักงาน และลูกค้าทั้งระดับองค์กรและบุคคลจำนวนมาก ทีมของเขาแบกภาระอันหนักอึ้งนี้มานาน แต่มันก็ได้จบสิ้นไปแล้วตั้งแต่เมื่อสามสัปดาห์ก่อน

ตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องแบกแล้ว… แล้วสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาแบกอะไรอยู่?…

เขาลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา เอาผ้าชุบน้ำ เดินกลับมาลากกระเป๋าใบยักษ์ออกจากใต้โต๊ะทำงาน ทำความสะอาด เช็ดฝุ่นและคราบเกลือตามซิป รูดซิปออกหยิบอุปกรณ์และชุดดำน้ำออกมาทำความสะอาด ตรวจเช็คสภาพอุปกรณ์ ทุกชิ้นปกติดี ไม่มีชิ้นไหนเจ็บป่วย เหมือนพวกมันรอวันนี้มาแสนนาน

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือกดเบอร์โทรศัพท์จองตั๋วรถทัวร์ไปภูเก็ต

คืนนี้นอนหลับสนิทกว่าร่วมยี่สิบวันที่ผ่านมา ภาพต่างๆ ของปู่และโลกใต้น้ำสีครามผุดขึ้นเลื่อนไปเรื่อยๆ เหมือนภาพสไลด์ กล่อมเขานอนหลับฝันดีจนเช้า

เช้านี้สดใสกว่าเคย เก็บเสื้อผ้าเรียบร้อย นั่งรอเวลาเพื่อขนสัมภาระออกไปเรียกแท็กซี่ในตอนเย็น เพื่อขึ้นรถทัวร์ตอนค่ำ

ขณะนั่งอยู่บนรถทัวร์ เขารู้ตัวว่าสลัดเรื่องราวเหล่านั้นออกไปไม่หมด มันคอยวกมาหลอกหลอนเป็นครั้งคราว เขาต้องการหลบหนีบางสิ่งและเพื่อค้นหาบางอย่าง…

ห้วงน้ำกว้างไกล น้ำใสแจ๋ว ของเกาะตาชัยด้านทิศตะวันตก เขามองเห็นปะการังอ่อนสีสวยสดเกาะเต็มโขดหินใต้น้ำ ฝูงปลาสีแสบตานับร้อย ปู่ชี้ให้ดูฉลามเสือดาวที่หมอบนอนอยู่บนพื้นทรายด้านล่าง ปู่เคยบอกว่าฉลามเสือดาวไม่เป็นอันตราย ไม่กัดคน แถมยังขี้เซาเสียอีก ตัวมันยาวเกือบสองเมตร สีน้ำตาลอมเหลือง มีลายจุดๆ สีคล้ำตามตัว

เขาถลาลงไปนอนข้างๆ พยายามหายใจให้เบา ไม่ให้เสียงดังและมีฟองอากาศมาก เอามือหนุนแก้มจ้องมองเจ้าฉลามหายใจขยับเหงือกพะงาบๆ ขี้เซาจริงๆ ด้วย ขนาดมานอนข้างๆ ระยะห่างไม่ถึงเมตรขนาดนี้ยังนอนหลับไม่รู้สึกตัว

ปู่ให้สัญญาณมือว่ามีกระเบนราหูว่ายอยู่ด้านบน เขาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นกระเบนราหูตัวใหญ่น่าจะกว้างกว่าสามเมตร ว่ายวนไปมาอยู่สามตัว พวกมันดูราวกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า เพราะเลยขึ้นไปเขามองเห็นดวงอาทิตย์ลอยเด่นเหนือผิวน้ำ ส่องแสงเป็นลำลงมาใต้น้ำ มีกระเบนราหูขนาดยักษ์ว่ายฉวัดเฉวียนน่าตื่นตา เขาเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับโลกใต้ทะเลของอาจารย์ ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นึกถึงเทคนิคการเล่นกับกระเบนราหูในหนังสือ

เขาลอยตัวขึ้นตัวตรงหัวชี้ฟ้า รอจังหวะกระเบนราหูตัวหนึ่งกำลังจะว่ายผ่านมา พอเจ้ากระเบนว่ายมาถึง เขาตีขาลอยตัวสูงขึ้นไปดักหน้า เจ้ากระเบวนราหูเชิดหน้าว่ายหลบ เขาหงายตัวแล้วตีขาว่ายตีขนาบใต้ท้องมันในระยะห่างไม่ถึงสามเมตร เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นกระเบนราหูตัวจริง และได้ทดลองเทคนิคนี้ ซึ่งเขาประทับใจมาก ปู่ลอยตัวดูอยู่ห่างๆ ด้วยความภูมิใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลงดำน้ำลึก หลังจากฝึกในสระอยู่หลายวัน ปู่เป็นผู้สอนการดำน้ำทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติให้ตอนนั้นเขาอายุสิบขวบ

ไดฟ์ที่สองของวันแรกในโลกสีครามของจริง เป็นการลงดำที่จุดดำน้ำแห่งหนึ่งของหมู่เกาะสิมิลัน เป็นจุดที่มีเรือจมอยู่ใต้น้ำในระดับความลึกที่พื้นทรายคือสี่สิบห้าเมตร ปู่นำเขาไปใกล้ๆ หัวเรือ ชี้ให้ดูภายในห้องต่างๆ ซึ่งมีปลาหูช้างตัวใหญ่เท่าพัดลมตั้งพื้นว่ายอยู่เป็นกลุ่ม เขาอยากรู้ว่าข้างในเรือเป็นอย่างไรแต่ไม่กล้าเข้าไปเพราะมืดมากน่ากลัว ปู่จึงบอกให้รออยู่ตรงนี้ จะดำเข้าไปให้ดู เพราะปู่มีไฟฉายอันเบ้อเริ่มติดมือลงมาด้วย

เขาเหลือบเห็นปลาทรัมเป็ตสีเหลืองตัวยาวเท่าศอก รูปร่างคล้ายทรัมเป็ตสมชื่อ ว่ายอยู่ด้านท้ายเรือด้านล่างใกล้พื้นทราย ด้วยความกระหายอยากเห็นใกล้ๆ จึงตีขาอย่างเร็วดำดิ่งลงไปดู เจ้าปลาทรัมเป็ตสีเหลืองสดว่ายหนีเร็ว เขาตีขาว่ายตามไปไม่ลดละ ที่ระดับความลึกสี่สิบห้าเมตรเหนือพื้นทรายไม่ถึงฟุต ด้วยความเหนื่อยและความลึกจึงใช้อากาศหมดไปอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกเพลียกระทันหัน ทันใดเขาก็หมดสติ ตกลงไปนอนอยู่บนพื้นทรายข้างเรือ มีปลาหูช้างเข้ามาว่ายวนอยู่ใกล้ตัว

อากาศในถังเหลือเบาบาง เขาเริ่มหายใจติดขัด

เขารู้สึกเหมือนกำลังฝัน หลับสบายอยู่บนพื้นนุ่ม อากาศเย็น

อากาศในถังหมดลง…

เมื่อปู่ออกมาจากภายในตัวเรือไม่พบหลาน จึงส่งสัญญาณบอกนักดำน้ำคนอื่นๆ ที่ลงดำพร้อมกันกว่าสิบคนในไดฟ์นั้นให้ช่วยออกตามหาหลาน ใครคนหนึ่งพบเขานอนหมดสติอยู่บนพื้นทรายข้างเรือ เอาสายอ็อกโทปุสที่ต่อกับถังอากาศของตนยื่นใส่ปากให้เขาหายใจ และค่อยๆ พาเขาขึ้นสู่ผิวน้ำ

เขาตื่นลืมตาขึ้นจึงทราบว่าคนที่ช่วยเขาคือปู่นั่นเอง ปู่บอกว่าเสียใจมาก ชีวิตของคนที่รักที่สุดที่เหลือเพียงชีวิตเดียวต้องไม่ถูกพรากไปอีก ปู่พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ตื่นเต้น เพราะกลัวอากาศจะหมดเร็ว ปู่รีบออกดำหาเขาอย่างไม่คิดชีวิต จนสังเกตเห็นเขาที่พื้นทรายด้านล่าง

ปู่ยังไม่ลืมเหตุการณ์นั้น เจอปู่ทีไรมักหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพร่ำหวนถึงเสมอ ปู่บอกว่าไม่มีวันอภัยให้ตัวเองเด็ดขาดที่เผลอปล่อยให้เขาอยู่ลำพังอย่างนั้น…

แต่เขากลับทิ้งปู่ให้อยู่ลำพังมาหลายปี โดยได้แค่กลับไปเยี่ยมสั้นๆ ความสุขอบอุ่นยังไม่ทันประหวัดรัดรอบตัวปู่หลานก็พลันถูกภาระหน้าที่กระชากร่างเขากลับสู่อีกโลก

เขาคิดถึงปู่

เขานึกถึงคำที่ปู่สอน…

“คนเราเกิดมาเพื่อเอาความจริงในสมองซีกซ้ายไปพบความฝันในสมองซีกขวา”

เขาพบแล้ว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาความจริงกับความฝันยังตั้งมั่นอยู่ที่เดิม ความฝันเริ่มรางเลือนและมีบางสิ่งฉาบเคลือบ ส่วนความจริง…มันไม่เคยจริง มันถูกอัตตาแห่งความบ้างานสร้างขึ้นมา เขานึกถึงการตัดสินใจของปู่ที่สละทุกอย่างเพื่อกลับไปอยู่กับต้นไม้…และเขา

กลับขึ้นสู่เรือ เขามาดำน้ำคนเดียว โดยซื้อทัวร์ดำน้ำมาดำกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ คู่บั๊ดดี้และเพื่อนร่วมห้องคือเรโกะช่างถ่ายภาพใต้น้ำสาวชาวญี่ปุ่นเป็นผู้พบเขาและพาขึ้นสู่ผิวน้ำ

ไต๋วิทยุเรียกเรือเร็วจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันบนเกาะสี่  พาเขาส่งไปโรงพยาบาลที่ฝั่ง  หมอตรวจแล้วอาการไม่หนัก แต่ต้องอยู่พักสักระยะ เนื่องจากมีฟองอากาศเล็กๆ สะสมในเส้นเลือดเล็กน้อย อันเกิดจากโรค ‘เบนด์’ หรือ ‘ดีคอมเพรสชั่น ซิกเนส’

เขาฝากพยาบาลโทรศัพท์หาเพื่อนเก่าที่ภูเก็ต

เพื่อนเก่าแก่ที่เรียนและโตมาด้วยกันคนหนึ่งมาเยี่ยม เขาเล่าถึงสาเหตุงี่เง่าที่ระบบไอทีล่ม โดยเขาและเพื่อนแพะอีกสามตัวต้องเคว้งคว้างกระทันหัน แต่เขามีอาการหนักสุด เพราะมัวแต่แบกความไร้สาระไว้บนบ่าติดตัวออกมาด้วย

เพื่อนเก่าฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เรื่องไอทีและศัพท์ไอทีเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับมนุษย์สามัญอย่างเขา แต่เขาก็ปลอบใจ และดีใจกับการตัดสินใจของเพื่อน

“ตั้งแต่เรียนจบ กูไปทำงานอยู่สิงคโปร์มาห้าปี เก็บเงินได้ก้อนโตก็กลับมาเปิดร้านอาหารที่นี่ เช้ายันสายขายติ่มซำ เที่ยงถึงหัวค่ำขายขนมจีนกับสเต๊ก… ของชอบมึงทั้งนั้นนี่?”

“แล้วกูจะไปเป็นลูกค้าประจำ”

รุ่งขึ้นเขาตัดสินใจออกจากโรงพยาบาล บอกหมอว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะนั่งรถทัวร์กลับ

หมอกลัวว่าเขาจะขึ้นเครื่องบินกลับ เพราะหากขึ้นไปที่สูงมากๆ แรงดันอากาศยิ่งเบาบาง ฟองอากาศเหล่านั้นในเส้นเลือดจะยิ่งขยายตัวมากขึ้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

แผนและความตั้งใจทีแรกผิดเพี้ยนเล็กน้อย จากการจะกลับมาเยี่ยมปู่ แต่ดันหลงทางมาลงเรือทัวร์ดำน้ำเสียก่อน

ระหว่างนั่งรอเวลาอยู่ที่คอนโดฯ เพื่อออกไปเรียกแท็กซี่ตอนเย็น เขามองกระเป๋าใส่อุปกรณ์ดำน้ำเนิ่นนาน ลองเสี่ยงโทรศัพท์ไปบริษัททัวร์ดำน้ำที่เคยใช้บริการ โชคดีที่ทัวร์ทริปดำน้ำสิมิลันเหนือมีเหลือที่ว่างอีกหนึ่งคน และเรือจะออกพรุ่งนี้เย็น

เขาอยากไปพักสมองก่อน ปล่อยตัวล่องลอยอิสระใต้น้ำให้หนำใจแล้วจึงไปอยู่กับปู่นานๆ

แต่ตอนนี้แผนและความตั้งใจเปลี่ยนไปอีกเล็กน้อย

มหาสมุทรนั่งรถทัวร์กลับมาถึงกรุงเทพฯ เช้ามืด เข้ามาเก็บข้าวของย้ายออกจากคอนโดฯ ย้อนกลับไปที่ท่ารถทัวร์ในตอนเย็น เพื่อรอขึ้นรถกลับไปภูเก็ตในตอนค่ำ

เขาชอบนั่งรถทัวร์

ชอบตอนรถทัวร์แวะพักให้ผู้โดยสารทานข้าวต้มกลางทาง ได้ดื่มด่ำบรรยากาศคราคร่ำไปด้วยรถทัวร์และผู้คน เขาชอบนั่งเบาะวีไอพีตัวใหญ่แสนสบายกว่าเบาะนั่งชั้นประหยัดบนเครื่องบิน ได้เหม่อมองดวงจันทร์และหมู่ดาวบนผืนฟ้ายามราตรี เคลื่อนตัวตามสลับลับหายเป็นช่วงๆ เสียงล้อบดถนนและตัวรถโยกส่ายยามเลี้ยว สัมผัสได้ถึงการเดินทางที่เคลื่อนไปข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่เขาชอบมากที่จะได้ปล่อยใจลอยไกล เหม่อคิดเพ้อฝันไปเรื่อยเปื่อย แต่ครั้งนี้ต่างจากเมื่อสี่วันก่อน ไม่มีสาเหตุของการตัดสินใจเดินทางเมื่อสี่วันก่อนตามมารังควานใจ…

ถึงท่ารถทัวร์ภูเก็ตเช้ามืด เขาลากกระเป๋าใบโต แบกเป้ใบใหญ่ และหอบหิ้วกระเป๋าอีกหลายใบ ขึ้นรถสองแถวออกไปทานติ่มซำที่ร้านเพื่อน เขาไม่ได้หิว แต่สำนึกชักจูงไปโดยไม่รอการตรองของสมองสักนิด

เช้ามืดต้นเดือนมกราคมหลังผ่านช่วงวันหยุดปีใหม่มาหลายวัน บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคักเป็นปกติ ผู้คนกลับมาสนใจกับหน้าที่ของตัวเองโดยบันทึกความสุขเมื่อหลายวันก่อนเก็บไว้เรียบร้อย เช้านี้อากาศเย็นสบายไร้ฝนโปรยปราย เขาหันหน้าออกรับลมเย็นปะทะใบหน้า ภาพวิวที่ผ่านมา-และผ่านไปสดใส รถสองแถววิ่งเนิบช้า เลี้ยวเลาะผ่านถนนและซอกซอย เขาเห็นสามแยกจุดสังเกต เอื้อมมือกดกริ่ง เดินลงไปจ่ายค่ารถด้านหน้า ก่อนข้ามถนนกระฉับกระเฉงเข้าร้าน

เขาบอกพนักงานว่าเป็นเพื่อนกับฤทธิ์ พนักงานเดินเข้าไปตามเพื่อนให้

“ไหง่มุด!”

“แหลงใต้มาแต่ไกลเลยมึง บอกกี่ทีให้เรียกกูว่าหมุด ไม่ใช่มุด เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดว่ากูชอบมุด”

เขาบอกเพื่อนว่าขอฝากสัมภาระไว้ที่ร้านก่อน เดี๋ยวจะกลับไปเอากระเป๋าที่ร้านทัวร์ดำน้ำที่ป่าตอง

ติ่มซำและชาจีนที่นี่รสชาติเยี่ยม แล้วยังมีหมูย่างเมืองตรังรสเด็ดที่สั่งมาจากจังหวัดตรังจริงๆ อีกด้วย เขาบอกเพื่อนว่าจะต้องกลับมาเป็นลูกค้าประจำแน่ๆ แล้วจะพาปู่มาทานด้วย

อิ่มหนำกับมื้อเช้าแสนอร่อย ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นหลังนั่งบนรถทัวร์มาทั้งคืน ควักกระเป๋าสตางค์เตรียมจ่ายเงิน ฤทธิ์ร้องลั่น

“กูเลี้ยงเอง เลี้ยงต้อนรับกลับบ้าน”

เขาเดินออกไปเรียกรถสองแถวสายมุ่งหน้าสู่หาดป่าตอง…

รถสองแถววิ่งผ่านหน้าร้านเสวย ลุกขึ้นกดกริ่ง เดินลงไปจ่ายค่ารถด้านหน้า

เขาเหลือบมองร้านเสวย ยืนนิ่งนาน นึกถึงภาพเมื่อสมัยก่อนที่เขาเคยมานั่งทานอาหารกับใครคนหนึ่งที่นี่ประจำเมื่อมาลงเรือทัวร์ดำน้ำที่ภูเก็ต แว่บหนึ่งเขานึกถึงเรโกะ หากได้เจอเธออีกเขาอยากชวนเธอมาเลี้ยงข้าวขอบคุณที่ร้านนี้ ไม่ใช่เพราะเป็นร้านประจำของเขากับใคร แต่เขาชอบบรรยากาศร้านและรสชาติอาหารที่นี่

แดดร้อน เหงื่อเริ่มซึม ฉุดเขากลับจากห้วงอดีตและปรารถนา เดินเข้าซอยถัดจากร้านเสวยไปเกือบสุดซอย ดึงประตูกระจกเปิดอ้าสัมผัสถึงความเย็นฉ่ำ เข้าไปสอบถามถึงกระเป๋าที่มีคนฝากไว้ที่นี่  พนักงานเดินไปลากกระเป๋ามาให้ แล้วสอบถามถึงอาการ เขาตอบว่าสบายดีไม่เป็นอะไรแล้ว ก่อนออกมาเขาถามถึงนักท่องเที่ยวหญิงที่ชื่อเรโกะที่ไปทริปเดียวกัน พนักงานไม่มีข้อมูลติดต่อ…

ผลักประตูกระจกเดินออกจากความเย็นฉ่ำสู่ไอระอุภายนอก อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกระทันหัน แต่เขาไม่เป็นอะไร เดินอย่างห่อเหี่ยวถึงปากซอยข้ามไปฝั่งชายหาดเรียกรถสองแถวกลับไปเอาสัมภาระที่ร้านเพื่อน

ขณะนั่งอยู่บนรถสองแถว

เพียงได้เจอเธอสักครั้ง อย่างน้อยขอแค่ได้กล่าวขอบคุณเธอ

เพียงแค่คืนเดียวกับอีกเกือบหนึ่งวันบนเรือและใต้น้ำ… เขาเล่าถึงสาเหตุที่มาดำน้ำให้เธอฟังตอนฟ้าสาง เธอลงจากเตียงเห็นเขานอนตาปรือมือก่ายหน้าผาก จึงรู้ว่าเขานอนไม่หลับ จึงแนะนำให้ระบายอะไรออกมาบ้างเผื่อสบายใจขึ้น และแกล้งแหย่ว่า อย่างน้อยจะได้ดำน้ำด้วยกันสนุกๆ ไม่ทำให้เธอเดือดร้อน

ในช่วงที่มืดหม่นนั้น สัมผัสปิดกั้นการรับรู้เรื่องราวใหม่ๆ ในหัวมีแต่ภาพอดีตที่เพิ่งผ่านมา และที่ผ่านมานานแล้ว เขาไม่รู้ตัวว่าเธอได้เล่าเรื่องราวของเธอให้ฟังบ้างหรือไม่ เขาจำได้เพียงว่าเธอคอยตั้งคำถาม แล้วเขาก็ระบาย ส่วนเธอก็นั่งฟังตาแป๋ว

เขากลับมาถึงที่ร้านเพื่อนเกือบเที่ยง ได้เวลาเมนูขนมจีนพอดี ด้วยความอยากเมื่อหลายวันก่อน เขาจึงสั่งขนมจีนแบบไม่ยั้ง หมดไปสามจานอย่างรวดเร็ว เพื่อนคงเชื่อแล้วว่าเขาจะต้องได้เป็นลูกค้าประจำแน่ๆ

ร่ำลาเรียบร้อยก็ขนกระเป๋าจำนวนมากไปยืนริมถนน คราวนี้เขาเหมารถสองแถวเล็กเพื่อเดินทางไปด้านตะวันออกของเกาะภูเก็ตที่เงียบสงบปราศจากนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน

รถสองแถวจอดหน้าบ้าน เขาบอกให้คนขับรอสักครู่

เขากดกริ่งยืนรอหน้าประตู อดีตพ่อบ้านบริษัทยักษ์ใหญ่ ผมสั้นขาวเกือบล้าน หนวดเคราขาวโพลน แต่ท่าเดินยังกระฉับกระเฉง เดินมาเปิดประตูด้วยตัวเอง หลังมองจากจอมอนิเตอร์ในบ้านเห็นหน้าหลานชายสุดรักผ่านกล้องวงจรปิดหน้าประตู

ประตูเปิดออก ทั้งคู่ยืนยิ้มให้กัน เขาเดินเข้าไปกอดปู่ บอกปู่ว่าจะกลับมาอยู่กับปู่

ปู่ดีใจไม่สงสัยสักนิด เพราะข่าวการไล่ทีมทดสอบระบบทั้งสี่คนออก เนื่องจากเป็นสาเหตุของระบบไอทีของธนาคารล่ม โด่งดังไปทั่วประเทศ ปู่เพียงนั่งนับวันรอคอยการมาถึงของหลานเท่านั้น แล้ววันนี้ก็มาถึง

เขาเล่าทุกอย่างให้ปู่ฟัง รวมถึงเรื่องหมดสติใต้น้ำเมื่อสามวันก่อน

เขาจะกลับมาดูแลปู่

เงินชดเชยก้อนใหญ่ที่เป็นเสมือนน้ำใจจากผู้บริหารที่ช่วยรับผิดแทน เขาจะนำไปรวมกับเงินเก็บส่วนหนึ่งเพื่อสร้างรีสอร์ทเล็กๆ ท้ายสวนที่อยู่ติดชายป่าโกงกาง เขาจะทำ ‘อีโค่ ทัวริซึ่ม’ หรือการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เน้นการท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งนี่จะได้ทำให้เขาอยู่ใกล้ชิดปู่มากขึ้น ไม่ต้องห่างไปไหนไกลอีก…

และนี่คือบ้านของเขา

ปู่ไม่ขัดข้อง ทั้งดีใจที่หลานจะนำความหลงใหลมาสร้างให้เกิดประโยชน์

ปู่ชวนเขาไปท้ายสวนนั้น เดินไปคุยไป

“หมุดจะทำเว็บไซต์เผยแพร่ความรู้ด้านการทดสอบและบริหารคุณภาพระบบไอที ให้คนที่สนใจทั่วไปได้ศึกษา จะทำในช่วงว่างๆ”

“เอาความรู้และประสบการณ์ที่ถูกบีบกั้น มาช่วยสร้างปัญญาให้แก่ผู้อื่น” ปู่พูดขึ้น

เขายิ้มตอบ

“ใช่ปู่ แม้ปัญญาจะให้กันไม่ได้ แต่หมุดอยากให้ความรู้เพื่อไปกระตุ้นการเกิดปัญญาให้เร็วขึ้น องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยภาคการทดสอบที่เข้มแข็ง ก็จะได้ผลงานที่เปี่ยมคุณภาพแท้จริง เพราะองค์กรในบ้านเรามากมายไม่ค่อยให้โอกาสคนได้สร้างเสริมปัญญา จึงมักมีแต่ผลงานห่วยๆ ที่ล้างผลาญงบเกินจำเป็น หลายคนที่มีความรู้ความสามารถมักถูกตีกรอบ”

ปู่ยิ้มและเปรยเบาๆ…

“เพราะบางครั้งโลกก็ใจร้าย ให้เราเป็นเจ้าของความรู้และประสบการณ์ แต่ไม่อยากให้เราใช้…”

เดินมาถึงท้ายสวน ข้างหน้าเป็นป่าชายเลน มีต้นโกงกางแน่นขนัด พลันเขาสังเกตเห็นเต๊นท์สีเหลืองสดใสอยู่ไม่ไกล เห็นใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนขอนไม้ยื่นเข้าไปในชายน้ำ ถือกล้องถ่ายภาพกำลังถ่ายอะไรสักอย่างที่ผืนน้ำ

เขาคุ้นกับท่าทางนั้น

พลันเธอเหลือบมาเห็นเขา แล้วโบกมือให้ ส่งยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นมาแล้วสองวัน

ใจเต้นตึกๆ ระคนสงสัย

ปู่จึงเล่าว่าเธอมาตามหาเขาเมื่อวานเพราะเป็นห่วง ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตจนเจอ ปู่บอกเธอว่าเดี๋ยวเขาจะมาถึงที่นี่เองในไม่ช้า เธอจึงขอกางเต๊นท์รอตรงนี้เพราะวิวสวย และจะได้ถ่ายภาพระบบนิเวศน์ป่าชายเลนที่นี่ด้วย

เขารู้สึกละอายที่ไม่สามารถไล่ตามร่องรอยเธอได้ แต่กลับเป็นคนต่างชาติอย่างเธอที่แกะรอยทางฝันจนตามมาบรรจบกันที่นี่

เขาเดินไปหาเธอ

เธอกำลังไต่ลงจากขอนไม้

เขาเหลือบเห็นลูกฉลามเสือดาวสองตัวขนาดเกือบสองฝ่ามือว่ายเล่นอยู่บริเวณรากต้นโกงกางอย่างสนุกสนานแ

ใส่ความเห็น